วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อาหารภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อาหารภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อาหารอีสานจะเน้นไปทางรสชาติที่รสจัด เช่น ส้มตำปูปลาร้า ชาวบ้านหาอาหารจากแหล่งอาหารธรรมชาติเท่าที่จำเป็นที่จะบริโภค เช่น การหาปลาจากแม่น้ำ ไม่จำเป็นต้องจับปลามาขังทรมานไว้ และหากวันใดจับปลาได้มากก็แปรรูปเป็นปลาร้าหรือปลาแห้ง

แจ่วบอง

แจ่วบอง

23 มกราคม พ.ศ. 2556
แจ่วบอง เป็นเครื่องจิ้ม ที่มีรสชาติเข้มข้น และแห้งกว่าแจ่วธรรมดา เพื่อให้เก็บไว้กินได้นาน โดยการเผาเครื่องปรุงให้สุก รับประทานกับผักตามหนองน้ำ เถียงไร่ เถียงนา เช่น ผักบุ้ง ผักแว่น ผักตับเต่า เป็นต้น
ส้มตำไทย

ส้มตำไทย

23 มกราคม พ.ศ. 2556
เป็นอาหารว่างของชาวภาคกลาง ที่มีพื้นเพมาจากภาคอีสาน รสชาติของส้มตำไทย จะไม่ออกรสเค็มเหมือนส้มตำปูปลาร้า แต่จะออกรสหวาน เปรี้ยว เค็ม 3 รส
ส้มตำปู

ส้มตำปู

23 มกราคม พ.ศ. 2556
ตำ เป็นอาหารที่ปรุงจากผัก หรือผลไม้ โดยโขลกพริกและกระเทียม แล้วใส่เครื่องที่จะตำคือ มะละกอ ซึ่งนำไปสับเป็นเส้น ๆ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำปลาร้า สำหรับตำปู จะใช้ปูเค็ม แกะเป็นชิ้น ๆ ตำพร้อมมะละกอ เวลาปรุงรสเค็มควรชิมก่อน
ลาบหมู

ลาบหมู

23 มกราคม พ.ศ. 2556
วิธีทำเหมือนลาบวัว เพียงแต่เปลี่ยนเนื้อวัวเป็นเนื้อหมูแทน
แจ่วฮ้อน

แจ่วฮ้อน

23 มกราคม พ.ศ. 2556
ลักษณะการรับประทานคล้ายสุกี้ยากี้ บางคนเรียกแจ่วฮ้อนว่า “สุกี้อีสาน” เครื่องปรุงจะมีเนื้อหมู พร้อมเครื่องใน (หรือเนื้อวัวก็ได้) หั่นเป็นชิ้นบาง ๆ พอดีคำ หมักด้วยซีอิ้วขาว พริกไทยป่น ไข่ไก่ สำหรับน้ำซุปกระดูกหมู จะใส่ตะไคร้ ใบมะกรูด เกลือ น้ำปลา พอเดือดใส่ใบโหระพา เวลารับประทานนำเนื้อหมูที่หมักไว้ ลวกลงในน้ำซุป จากนั้นจิ้มกับน้ำจิ้ม ซึ่งปรุงมาจากพริกป่น ข้าวคั่วป่น น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก โรยต้นหอมหั่นฝอย สำหรับผักที่ใช้รับประทานคู่กัน ได้แก่ ผักบุ้งจีน ผักกาดขาว ขึ้นฉ่าย อาจมีวุ้นเส้นด้วยก็ได้
น้ำตกหมู

น้ำตกหมู

23 มกราคม พ.ศ. 2556
ใช้เนื้อหมูติดมัน นำไปย่างไฟ พอให้สุก (มีน้ำไหลออกจากเนื้อบ้าง) หั่นพอดีคำ ปรุงรสด้วยพริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย น้ำปลา น้ำมะนาว ชิมรส ก่อนรับประทานโรยด้วยต้นหอมซอย ใบสะระแหน่
ตับหวานหมู

ตับหวานหมู

23 มกราคม พ.ศ. 2556
วิธีทำเหมือนน้ำตกหมู เพียงแต่เปลี่ยนเนื้อหมู เป็นตับหมู โดยแล่เป็นชิ้นหนาประมาณฝ่ามือ นำไปย่างพอสุก แล้วหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ พอดีคำ ปรุงรสเช่นเดียวกับน้ำตกหมู
ไก่ย่าง

ไก่ย่าง

23 มกราคม พ.ศ. 2556
นำไก่สับเป็นชิ้นหนาขนาดฝ่ามือ แล้วนำไปคลุกกับเครื่องที่โขลกคือ กระเทียม ตะไคร้ เกลือป่น ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ้วขาว พริกไทย หมักทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที นำไปย่างบนเตาถ่านให้สุก ควรใช้ไฟอ่อน ๆ ในการย่าง เพราะจะทำให้เนื้อไก่ไม่ไหม้ก่อนสุก และเนื้อไก่นุ่มด้วย รับประทานกับน้ำจิ้ม ที่ทำจากพริกป่น กระเทียม น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะนาว
ไส้กรอกอีสาน

ไส้กรอกอีสาน

23 มกราคม พ.ศ. 2556
เป็นอาหารหมัก มีรสเปรี้ยว ทำจากเนื้อหมูบด ผสมข้าวเหนียวนึ่ง (แช่น้ำ) คลุกเคล้าด้วยพริกไทย กระเทียม รากผักชีที่โขลกละเอียด นวดให้เข้ากัน ยัดใส่ในไส้หมู มัดเป็นปล้อง ๆ ตามขนาดที่ต้องการ นำไปตากแดด 1 วัน (แดดจัด) เวลาจะรับประทานนำไปทอด หรือย่าง รับประทานกับขิงซอย พริกขี้หนูสด
ซุปหน่อไม้

ซุปหน่อไม้

23 มกราคม พ.ศ. 2556
ส่วนใหญ่เป็นอาหารที่ทำจากผัก นำมาต้มหรือเผาไฟ แล้วทำซุปโดยใส่เครื่องปรุง ได้แก่ งา ข้าวคั่ว ผักที่มีกลิ่นหอม เช่น ใบสะระแหน่ รับประทานกับผัก สำหรับซุปหน่อไม้ ใช้หน่อไม้สดไผ่รวก นำไปเผาไฟแล้วขูดเป็นเส้น ๆ หรือใช้หน่อไม้ดองที่ไสเป็นเส้นยาว ๆ ต้มกับน้ำใบย่านางพอสุก (สังเกตจากน้ำใบย่านางเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีคล้ำ) ตักหน่อไม้ใส่ครก เติมพริกป่น ข้าวคั่ว งาขาว น้ำปลา น้ำปลาร้าต้ม น้ำมะนาว ต้นหอมซอย หอมแดงซอย ผักชีฝรั่งซอย ตำเบา ๆ เวลารับประทานโรยด้วยใบสะระแหน่
ต้มยำไก่บ้าน

ต้มยำไก่บ้าน

23 มกราคม พ.ศ. 2556
ใช้ไก่บ้านสับเป็นชิ้นพอประมาณ ต้มโดยใส่ใบมะกรูด ตะไคร้ ข่า หอมแดง และเกลือ เคี่ยวจนเนื้อไก่นุ่ม ใส่มะเขือเทศ ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก เวลารับประทานโรยต้นหอม ผักชี (ตะไคร้ ข่า หอมแดง ควรนำไปย่างไฟก่อน จะทำให้หอมยิ่งขึ้น)
ต้มเปรอะ (แกงหน่อไม้ใส่ใบย่านาง)

ต้มเปรอะ (แกงหน่อไม้ใส่ใบย่านาง)

23 มกราคม พ.ศ. 2556
เป็นอาหารที่ทำได้ง่ายในฤดูฝน เพราะหน่อไม้และใบย่านางหาได้ง่าย โดยนำหน่อไม้สดสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มน้ำทิ้ง แล้วนำไปต้มกับน้ำใบย่านาง ใส่ตะไคร้ทุบ และพริกที่โขลกกับหอมแดง ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า น้ำปลาก่อนยกลงใส่ใบแมงลัก อาจเพิ่มเห็ด ยอดชะอม ฟักทอง
แกงอ่อมไก่

แกงอ่อมไก่

23 มกราคม พ.ศ. 2556
ใช้เนื้อไก่สับเป็นชิ้นพอประมาณ ใส่เครื่องแกงอ่อม (พริก กระเทียม) ตั้งไฟ ใส่ผักต่าง ๆ เช่น ฟักทอง มะเขือ ฯลฯ ปรุงรสด้วยผักที่มีกลิ่นหอม เช่น ผักชีลาว
แกงอ่อมหมูใส่ฟักทอง

แกงอ่อมหมูใส่ฟักทอง

23 มกราคม พ.ศ. 2556
วิธีทำเช่นเดียวกับอ่อมไก่ เพียงแต่เปลี่ยนเป็นเนื้อหมู หั่นเป็นชิ้นพอคำ การคั่วเนื้อหมูก่อน จะทำให้แกงมีรสหอม และไม่มีกลิ่นคาว
น้ำพริกปลาร้า

น้ำพริกปลาร้า

23 มกราคม พ.ศ. 2556
ถือว่าเป็นอาหารหลักของชาวอีสาน ใช้รับประทานกับผักสด หรือผักลวกก็ได้ ให้นำพริกชี้ฟ้า หอมแดง กระเทียม ไปย่างไฟก่อน และใช้ปลาช่อนต้มกับน้ำปลาร้า พอสุก แกะเนื้อปลาไว้ ส่วนน้ำปลาร้านำไปใส่ในเครื่องที่โขลก แล้วปรุงรส
ก้อยเนื้อ

ก้อยเนื้อ

23 มกราคม พ.ศ. 2556
ใช้ข่าอ่อนหั่นละเอียด ผสมลงไปในเนื้อวัวสับละเอียด เพื่อดับกลิ่นคาว จากนั้นบีบมะนาวคลุกเคล้า แล้วบีบน้ำออก นำน้ำไปตั้งไฟพอเดือด ใส่เนื้อลงไปรวนให้สุก ปรุงรส
แกงขนุนอ่อน (ภาคอีสาน)

แกงขนุนอ่อน (ภาคอีสาน)

23 มกราคม พ.ศ. 2556
ใช้ขนุนอ่อน ต้มพอสุก นำซี่โครงหมูคลุกกับพริกสดโขลกกับข้าวเบือพอแหลก ใส่น้ำใบย่านาง น้ำปลาร้า น้ำปลา เกลือ ตั้งไฟพอเดือด ใส่ขนุน บวบ ชะอม ใบแมงลัก
นึ่งปลาช่อน

นึ่งปลาช่อน

23 มกราคม พ.ศ. 2556
นึ่งปลาช่อน ต่างกับนึ่งไก่ ตรงที่ใช้ใบแมงลักรองก้นรังถึง แล้ววางปลาที่หมักไว้ จากนั้นนำไปนึ่งให้สุก เพื่อดับกลิ่นคาว จากนั้นใส่ผัก นึ่งต่อ รับประทานกับน้ำจิ้ม
ข้าวปุ้นน้ำยาปลาร้า

ข้าวปุ้นน้ำยาปลาร้า

23 มกราคม พ.ศ. 2556
คล้ายน้ำยาป่าของภาคกลาง ทำง่าย รสชาติเค็ม เผ็ด มีรสหวานจากกระเทียมดอง อาจบุบพริกสดใส่ลงไปในน้ำยาก็ได้
ข้าวปุ้นน้ำยาลาว

ข้าวปุ้นน้ำยาลาว

23 มกราคม พ.ศ. 2556
น้ำยาลาว เป็นน้ำยาที่ใช้ปลาทำ คล้ายน้ำยาป่าของภาคกลาง เพียงแต่ใช้น้ำปลาร้าปรุงรส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น